โดย Por Pramsumran

The Game | Viet Nam by LE Brothers

 

เวียดนามเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเราแต่เรากลับรู้จักเวียดนามเพียงผิวเผินเท่านั้น รู้ว่าเป็นต้นกำเนิดของเฝอ รู้ว่าเมืองหลวงชื่อกรุงฮานอยและเมืองสำคัญชื่อโฮจิมินห์  รู้ว่าเคยมีสงครามเวียดนามและรู้ว่าเวียดนามเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ นอกจากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกและการนำเสนอภาพของเวียดนามในสื่อของเราก็ไม่ไปไกลกว่าสิ่งเหล่านั้น หลังจากมีกระแส “อาเซียนร่วมใจ” เราก็รับรู้เพิ่มเติมขึ้นมานิดหนึ่งว่าเวียดนามกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหนึ่งในประเทศน่าท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่อยากไปเห็นสาวเวียดนามในชุดประจำชาติสวมงอบปั่นจักรยาน ธรรมชาติอันสวยงามของอ่าวฮาลอง และกลิ่นอายเมืองเก่าสไตล์โคโลเนียล แต่เรื่องประวัติศาสตร์และการเมืองของเวียดนามกลับไม่ได้รับความสนใจมากขึ้นเท่าไรนัก เราเพียงรับรู้ว่าเขาเคยเจ็บปวดกับสงครามแต่ทุกวันนี้เขาก็ “ดู” มีความสุขกันดี

แต่พวกเขามีความสุขจริงไหม ? สงครามส่งผลกับพวกเขาอย่างที่เราได้รับการบอกเล่ามาหรือไม่ ? สิ่งที่เราเข้าใจว่าคนเวียดนามเป็นจากสื่อ พวกเขาเป็นจริงหรือไม่ ?

 

 

เล บราเธอร์ส (Le Brothers) คือพี่น้อง เล หง็อก ตาน (Le Ngoc Thanh) และ เล ดึก ฮาย (Le Duc Hai) เกิดเมื่อปี 2518 ที่จังหวัดกวางบินห์ ในตอนเหนือของเวียดนาม หลังเวียดนามรวมประเทศในปี 2518 ภายใต้การปกครองแบบคอมมิวนิสต์ พวกเขาได้ย้ายมาอาศัยและทำงานที่เมืองเว้ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่อยู่ทางตอนใต้ของของเวียดนาม ด้วยปูมหลังทำให้ศิลปินแสดงออกถึงสำนึกทางอัตลักษณ์ที่ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างเหนือหรือใต้

ก้าวแรกในนิทรรศการ เราถูกต้อนรับด้วยผ้ายาวจากเพดาน ผ้านั้นหลากสีและมีลักษณะโปร่งคล้ายกับผ้าสามสีที่ไว้ใช้สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามอย่างคนไทย ห้องเล็กที่อยู่หลังผ้า มีภาพถ่ายเก่ายุคก่อนแผนปฏิรูปโด่ย เหมย (2529) ถ่ายโดยเพื่อนและญาติของ Le Brothers ที่มาจากทั้งเวียดนามเหนือและใต้ แผนที่ที่มีตัวอักษรเขียนบอกเราด้วยภาษาอังกฤษว่าเล บราเธอร์สเคยอยู่ทั้งบนและใต้ “เส้นขนานที่ 17” เส้นสมมติที่ขีดแบ่งเขตแดน ข้างแผนที่มีโปสเตอร์จากยุคก่อน โต๊ะกลางห้องมีหนังสือทั้งประเภทสารคดีและนิยายเกี่ยวกับชีวิตของชาวเวียดนามให้เราเลือกหยิบอ่านได้

 

 

เมื่อออกจากห้องมาที่ส่วนกลางจะพบกับวีดิโออาร์ต 24 ช่อง รายละเอียดในแต่ละช่องนั้นเป็นกิจกรรมของศิลปินที่แต่งกายด้วยชุดลายพรางอย่างทหารและพกปืนติดตัวไปตามที่ต่างๆ ด้วย นอกเหนือจากสองสิ่งนี้แล้วผ้ายาวเป็นสีๆ ที่เห็นจากทางเข้าก็ปรากฏเป็นส่วนหนึ่งในวีดีโออยู่บ่อยครั้ง กิจกรรมในวีดีโอมีหลากหลาย พวกเขาขี่มอเตอร์ไซต์ไปตามที่ต่างๆ ทั้งโบราณสถานที่ปรากฏอิทธิพลสถาปัตยกรรมแบบจีนและตามย่านชุมชนที่คนพลุกพล่าน พวกเขาไปเกี่ยวข้าว ใช้ชีวิตที่ดูธรรมดาทั่วไป หรือบางกิจกรรมก็มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น มีวีดีโอที่พวกเขาให้หญิงสาวคนหนึ่งพันตัวพวกเขาด้วยผ้าโปร่งยาวสีแดงและปืนนั้นก็มีดอกไม้เสียบไว้ที่ปากกระบอกปืน วีดีโอที่พวกเขาแทรกตัวมาอยู่ระหว่างสาวก่อสร้างที่กำลังส่งก้อนอิฐ เขาเป็นตัวเชื่อมส่งก้อนอิฐให้กับแรงงานอีกคน วีดีโอที่พวกเขาพันผ้าสีแดงเป็นรั้วและเดินรอบผ้านั้นราวกับกำลังเฝ้าระวัง ขณะที่พื้นที่ในรั้วผ้ามีหนุ่มสาวเล่นกีต้าร์และร้องเพลงกันอยู่อย่างสบายๆ วีดีโอที่พวกเขาพันผ้าแดงพาดผ่านล้อมผู้ชายคนหนึ่งที่ทำท่าทางคล้ายรำมวยจีน วีดีโอที่พวกเขาพยายามนำผ้าไปห่อสิ่งของหรือสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีวีดีโอที่กระทำกับสิ่งของ เช่น ลอดห่วงยางลายพราง นอนบนเปลลายพราง สัมผัสถ้วยชามที่เขียนลายสีน้ำเงิน เป็นต้น วีดีโออาร์ตที่บันทึกศิลปะการแสดงสด (Performance Art) ของพวกเขาเอาไว้ ทำให้เห็นถึงความพร้องเพรียงและรู้ใจ เชื่อใจกันของศิลปินสองพี่น้อง

ก่อนเข้าสู่ห้องสุดท้าย เราจะพบประติมากรรมปืนไรเฟิล 2 กระบอก คือ ปืน AR-15 จากอเมริกาและ AK-17 จากสหภาพโซเวียต แต่ปืนนี้มีลวดลายมังกรและดอกไม้สีทองอยู่บนพื้นสีแดง ชวนให้นึกถึงลวดลายศิลปกรรมประเพณี และสีของธงชาติเวียดนาม

 

 

ห้องสุดท้ายจัดแสดงภาพถ่ายที่บันทึกพัฒนาการของผลงาน ห่วงยางลายพรางที่ปรากฏอยู่ในวีดีโอ ชุดทหารและรองเท้าที่ศิลปินสวมใส่ เราจึงได้เห็นรายละเอียดของชุดทหารนั้น เป็นลายปักรูปปลา เรือ ดอกไม้ ใบไม้ ที่ดูคล้ายกับลายเส้นภาพการ์ตูนอย่างง่ายของเด็ก

ฉันได้ตระหนักถึงความเหมือนกันของเรากับประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าที่เคย หน้าตาและการแต่งกายของชาวบ้านในชุดธรรมดาๆ ที่ไม่ใช่ชุดประจำชาติ นาข้าว ผ้าสามสีและชุดลายพราง ล้วนคุ้นตา นิทรรศการนี้ได้ทำฉัน-คนนอกได้เห็นเวียดนามในยุคหลังสงครามซึ่งเป็นแตกต่างกับช่วงเวลาของสงครามเวียดนามที่ถูกการนำเสนอในสื่อต่างๆ อย่างมาก ที่สำคัญ เป็นการนำเสนอจากศิลปินที่เป็นคนเวียดนามเอง การนิยามสภาพของเวียดนามในปัจจุบันสอดรับกับลักษณะความเป็นคู่แฝดชายของศิลปิน พวกเขากำเนิดเกิดมาพร้อมกัน คนนอกอาจมองพวกเขาเหมือนกันในแวบแรกที่เห็น แต่ที่จริงแล้วมีความแตกต่าง พวกเขาไม่ใช่คนๆ เดียวกัน แต่อยู่ด้วยกันและคงไม่อาจตัดขาดจากกันได้ เช่นเดียวกับเหนือและใต้

 

The Game | Viet Nam by LE Brothers (เดอะ เกม | เวียดนาม โดยเล บราเธอร์ส)

ภัณฑารักษ์ Loredana Pazzini-Paracciani

 

หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

วันนี้ – 19 กุมภาพันธ์ 2560

เวลา 9.00 – 20.00 น. (ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม)

(ภาพถ่ายโดยผู้เขียนรีวิว)